สุเหร่าเซนต์โซฟีย (อังกฤษ: Hagia Sophia) สุเหร่าเซนต์โซฟียมีเนื้อที่ประมาณ 700 ตารางเมตร ภายในมีเสาค้ำที่ถูกสลักอย่างสวยงาม 108 ต้น เป็นเสาขนาดใหญ่ 40 ต้น แต่เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนานิกายออร์ทอดอกซ์ ตั้งอยู่ที่กรุงสแตนติโนเปิล ประเทศตุรกี สร้างโดย จักรรพรรดิคอนสแตนติน เมื่อคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาในการสร้างถึง 17 ปี ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันถูกสร้างให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง แต่ต่อมาถูกทำลายหลายครั้งโดยผู้ก่อการร้าย เนื่องจากความขัดแย้งในสงครามระหว่างศาสนาคริสต์กับอิสลาม ต่อมาจักรพรรดิจัสติเนียนได้ครองตุรกี พระองค์จึงให้สร้างขึ้นใหม่ เมื่อปี 1435 เพื่อให้เป็นโบสต์ที่สวยที่่สุด ใช้เวลากว่า 20 ปีจึงจะสร้างฐานเสร็จ ส่วนตัวอาคารใช้เวลาแค่ 5 ปีเท่านั้น รวมแล้วกว่า 25 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อสร้างเสร็จไม่นานก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง จนทำให้อาคารบางส่วนเสียหาย จึงต้องให้ช่างมาซ่อมให้มีสภาพเดิม
เมื่อสิ้นสุดรัชสมัยของ จักรพรรดิจัสติเนียนพระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 ในปี 1453 ได้ครองตุรกีในเวลาต่อมาจึงเปลียนโบสต์ ให้เป็นสุเหร่า เช่นย้ายระฆัง แท่นบูชา รูปปั้นต่าง ๆ ออก และสร้างสัญลักษณ์ทางอิสลาม เช่นเสามินาเรต แทน สุเหร่าโซฟีอาเป็นสุเหร่าหลักของอิสตันบูลมากว่า 500 ปี จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดใหญ่กลางวิหาร และนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ สุเหร่าเซนต์โซฟียเคยเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมานานเกือบพันปี จนกระทั่งอาสนวิหารเซบียาสร้างเสร็จในปี 1520
ต้นแบบของสุเหร่าออตโตมันอีกหลายแห่ง เช่นสุเหร่าสุลต่านอาเหม็ด (สุเหร่าสีน้ำเงิน), สุเหร่าเซห์ซาเด, สุเหร่าซือเลย์มานิเย และสุเหร่ารืสเตม ปาชา ในปี 1935 ฮายาโซฟีอาก็ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์โดยรัฐบาลตุรกีจนถึงปัจจุบัน
สุเหร่าเซนต์โซฟียเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีสวยงามและน่าอัศจรรย์มาก เพราะเป็นการปสมผสานระหว่างศิลปะแบบคริสเตียนกับอิสลาม จึงได้รับการบันทึกให้เป็น 1.ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคกลาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น